คอมพิวเตอร์ในยุคแรกมีการใช้งานหลอดสูญญากาศแบบครบวงจรรวมกับแท่งแม่เหล็กสำหรับหน่วยความจำ โดยใช้ห้องขนาดใหญ่ทั้งห้อง ปัญหาคือค่าบำรุงรักษาแผงและความร้อนที่สูงมาก ส่งผลให้การทำงานไม่ถูกต้อง เครื่องคอมพิวเตอร์สั่งงานโดยใช้ภาษาเครื่องและสามารถทำงานได้ครั้งละหนึ่งงานในเวลาเดียวกัน มีการใช้กระดาษเจาะรู ูแถมกระดาษในการนำเข้าข้อมูล และแสดงผลโดยการนำเข้าข้อมูล และแสดงผลโดยการพิมพ์ออกมาเครื่องพิมพ์ในยุคนี้ได้แก่ UNIVAC และ  ENIAC

คอมพิวเตอร์ในยุคนี้เริ่มมีการเปลี่ยนภาษาเครื่องที่เป็นเลขฐานสองมาเป็นภาษาสัญลักษณ์หรือภาษาแอสแซมบลี ที่สามารถสั่งคำสั่งด้วยคำ และยังมีการพัฒนาระดับสูง  เช่น ภาษาโคบอลและฟอร์แทนในยุคนี้เอง   นอกจากนี้ในยุคนี้ยังได้มีการพัฒนาเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สามารถเก็บคำสั่งไว้ในหน่วยความจำ

ในยุคนี้ได้มีการพัฒนาวงจรรวมซึ่งแสดงถึงคุณภาพสูงของคอมพิวเตอร์ ในยุคที่สามมีการใช้งานซิลิคอนชิพ เรียกว่า เซมิคอนดักเตอร์ ที่สามารถเพิ่มความเร็วและประสิทธิภาพของเครื่องคอมพิวเตอร์ได้ทดแทนการ ใช้บัตรเจาะรูและการพิมพ์เพื่อแสดงผลในยุคที่สามนี้ได้มีการใช้คีบอร์ดและจอภาพ รวมถึงระบบปฏิบัติการที่สามารถทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถทำงานหลาย ๆ อย่างได้ในเวลาเดียวกันด้วยโปรแกรมกลางที่สามารถดูแลติดตามหน่วยความจำ ส่งผลให้เกิดงานอย่างแพร่หลาย เนื่องจากมีขนาดเล็กลง และ มีราคาถูกกว่าเคื่องคอมพิวเตอร์ในยุคก่อน

ไมโครเพรเซสเตอร์เป็นจุดเริ่มต้นของคอมพวเตอร์ในยุคที่สี่ โดยมีการพัฒนาวงจรรวมนับพันลงบนชิปซิลิคอลเพียงหนึ่งชิ้น จากที่คอมพิวเตอร์มีขนาดห้องทั้งห้องแต่ในยุคนี้คอมพิวเตอร์มีขนาดเล็กเพียงฝ่ามือเท่านั้น มีการพัฒนาชิปอินเทล 4004
ขึ้นในปี พ.ศ.2514 ติดตั้งลงในส่วนประกอบของคอมพิวเตอร ์จากหน่วยประมวลผลกลาง หน่วยความจำ ถึงหน่วยควบคุมการนำเข้าและแสดงผลลงบนชิปเพียงชิ้นเดียว จากเครื่องคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กแต่ทรงพลัง มันสามารถเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายและในที่สุดนำมาสู่การพัฒนา เป็นระบบอินเตอร์เน็ต  ในยุคนี้ยังสามารถเกิดการพัฒนา ส่วนติดต่อกับผู้ใช้ด้วยกราฟิก(Graphic User Interface : GUI) เม้าส์ ตลอดจนอุปกรณ์มือถือ (Handheld Devices)

เครื่องคอมพิวเตอร์ในยุคที่ห้านี้  อิงกับปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งยังมีการพัฒนา และประยุกต์ใช้ เช่น การแยกแยะเสียง ที่มีการใช้งานในปัจจุบัน การใช้แบบประมวลผลแบบขนาน
และซุปเปอร์คอนดักเตอร์ช่วยให้การสร้างปัญญาประดิษฐ ์เป็นจริงการประมวลผลแบบ
ควันตัม โมเลกุลและนาโนเทคโนโลยี อาจก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงโฉมของคอมพิวเตอร์
์ในอนาคตอันใกล้ เป้าหมายของคอมพิวเตอร์ในยุคนี้คือการพัฒนาเครื่องมือที่สามารถตอบสนองต่อภาษาธรรมชาติและ สามารถเรียนรู้และจัดการตนเองได้อย่างเป็นระบบ