เมื่อเวลา 11 นาฬิกากับ 25 นาทีแดดไม่ ร้อนแสงร้อนอ่อนมากคนร้องกันว่าเหมือนเดือนหงายครั้นถึง 30 นาทีดวงพระอาทิตย์เหลือน้อยถ้าจะคิดดวงพระอาทิตย์   แบ่งสัก 12 ส่วน จะเหลืออยู่ไม่ถึงส่วน 1 เมื่อนั้นท้องฟ้าตรงดวงพระอาทิตย์ ไปจนข้างตะวันตกเป็นต้นลมสว่างไม่มีเมฆเลยทีเดียว คนร้องว่าหมดแล้ว เห็นดาวแล้วอื้ออึงมากแต่ที่จริงยังไม่หมด ไปหมดต่อ  11 นาฬิกา 36 นาที 22 วินาทีเมื่อดวงพระอาทิตย์เหลือน้อย ดูในกล้อง ก็เห็นเป็นเส้นขอบโอบวงมืดอยู่ เพราะดูด้วยกล้องที่กำบังด้วยกระจกสี แต่ดูด้วยตาเปล่าวงขอบนั้น รัดกลมเข้ามาดูเหมือนดวงดาวแต่รัดเล็กเข้าไปทุกที  เหมือนตัวหิ่งห้อยแล้วจึงหายไปมีแต่สีขาวหัวคล้ายเมฆขาวล้อมรอบวงดำอยู่  ครั้นดวงพระอาทิตย์ ลับหายไปนาฬิกาคนถือดูก็ไม่เห็น มืดเหมือนกลางคืนครั้นไปประมาณ 1 นาทีหรืออย่างไรไม่แน่เพราะไม่เห็นนาฬิกาในกล้องแลเห็นเป็นกิ่งงางอน ๆ ช้อนไปทางทิศตะวันออกของดวงดำที่ทับพระอาทิตย์อยู่จมอยู่ในแสงขาวหลัวๆ รอบดวงดำนั้นเมื่อส่องด้วยกล้องใหญ่คล้าย ๆ   กิ่งลั่นทมหรือการังเขากวางปลายป้านๆ ไม่แหลมแต่ดูเห็นว่าเป็นของมีตัวแท้จะเป็นรัศมีบันดาลนั้น หามิได้ ของก็ไม่ควรจะเห็นเพราะแสงขาวชักให้เห็นออกมา   เหมือนกะแปะที่วางไว้ในถ้วยใหญ่ คนที่อยู่ข้างหนึ่งของถ้วยยังไม่เห็นแล้วครั้นน้ำเทลงในถ้วย ถึงกะแปะไม่ลอยขึ้นไม่กระเทือนไปคนไม่ได้ชะเง้อขึ้นก็เห็นได้ด้วยกำลังเงาน้ำชักครั้นล่วงไปอีกสัก 3นาทีจวนดวงพระอาทิตย์ จะผุดออกข้างทิศพายัพก็เห็นเป็นเงาเช่นนั้นเคียงติดกันเป็นคู่ออกข้างทิศพายัพอีกของเดิมก็ไม่หายไปครั้นล่วงมาสัก 5 นาทีเศษ เห็นเป็นฟันเลื่อยที่วงดำน้อย ๆ ข้างทิศประจิมค่อนหรดีในดวงดำนั้นครั้นพระอาทิตย์ผุดออกมา มีรัศมีเป็นแสงสว่างเห็นนาฬิกาได้ ขณะนั้นนาฬิกาได้  11 นาฬิกา 43 วินาทีถูกต้องกับที่ทรงพยากรณ์ไว้ไม่คลาดเลย พ้นนั้นไปไม่ได้ทรงกำหนด ก็คงอยู่ทิศอาคเนย์ จนหลุดบ่ายโมง 1 กับ 9 นาทีเกินที่ทรงพยากรณ์ไปหนึ่งนาที