ดาราศาสตร์และอวกาศ

ฐานฟากฟ้า ณ หว้ากอ

ฐานมนุษย์กับดวงดาว

ฐานพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ไทยกับดาราศาสตร์

ฐานความเป็นไปในจักรวาล

ฐานเทคโนโลยีอวกาศและเอกภพ

พัฒนาการแห่งดาราศาสตร์
    แสดงถึงพัฒนาการของมนุษย์ทางดาราศาสตร์ในยุคต่าง ๆ ตั้งแต่สมัยโบราณจนถึงปัจจุบันตลอดจนโครงการต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

3000-2450  B.C.
    ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษมีการสร้างอนุสาวรีย์สโตนเฮนจ์ด้วยก้อนหินขนาดใหญ่มหึมาเพื่อบอกทิศทางการขึ้นและตก
ของดวงอาทิตย์ในวันที่มีกลางวันยาวนานที่สุดของปี

3000-2500  B.C.
    ชาวอียิปต์โบราณ สร้างปิรามิตที่มีทิศทางที่สัมพันธ์กับตำแหน่งและทิศทางการขึ้นตกของดาว นอกจากนี้ยังศึกษาการเคลื่อนที่
ี่ของดวงดาวบนท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ช่วยในการบอกฤดูในการเพาะปลูกและเก็บเกี่ยว

582-507  B.C.
พิธากอรัส  แห่งซามอส
    พิธากอรัสคิดทฤษฎีที่พิสูจน์ว่าผลรวมกำลังสองของความยาวของด้านประกอบมุมฉากมีค่าเท่ากับกำลังสองของด้านตรงข้าม
มุมฉากของสามเหลี่ยมนั้น เป็นพื้นฐานที่สำคัญในการคำนวณระยะทางทางดาราศาสตร์

634-546  B.C.
ทาเลสแห่งมิลเลตุล
    ทำนายการเกิดสุริยุปราคาที่เกิดขึ้นในปี  585  ก่อนคริสตกาลและเสนอว่าโลกเป็นจานแบนที่ลอยอยู่เหนือมหาสมุทรที่
กว้างใหญ่อย่างไม่มีที่สิ้นสุด

190-120  B.C.
ฮิปปาร์คัสแห่งนิคาเอีย
     ฮิปปาร์คัสจัดทำแผนที่ดาวอย่างละเอียดขึ้นเป็นครั้งแรกโดยมีการจำแนกความสว่างของดาวเป็นค่าโชติมาตรต่าง ๆ

284-192 B.C.
อิราโตติเนสแห่งโซรีน
    อิราโตติเนสทำการวัดเส้นผ่านของโลกได้อย่างถูกต้องเป็นครั้งแรกโดยการสังเกตลำแสงของดวงอาทิตย์ที่พาดผ่านศีรษะ
ลงไปที่ก้นบ่อน้ำในวันโซติสฤดูร้อนที่เมืองไซรีน  พบว่าลำแสงตั้งฉากอดีตพบว่าสำแสงทำมุม 7 องศา กับจุดเหนือศีรษะ
ที่เมืองอเล็กซานเดรีย

310-230 B.C.
อาริสตาคัสแห่งซามอส
    อาริสตาคัสเสนอว่าดวงอาทิตย์เป็นจุดศูนย์กลางของเอกภพ โดยมีดาวเคราะห์ต่าง ๆ รวมทั้งโลกโคจรอยู่รอบ

384-322 B.C.
อริสโตเติล
    แบ่งเอกภพออกเป็นสองส่วนคือ โลกและสวรรค์โดยที่โลกประกอบไปด้วย  4  ธาตุ หลักคือ ดิน น้ำ ลม และไฟ ซึ่งมีการ
เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ส่วนสวรรค์เป็นที่อยู่ของดาวต่าง ๆ และไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในหนังสือ “On the Heavens
(De caelo)” ของอริสโตเติล อธิบายเอกภพโดยใช้แบบจำลองที่มีโลกเป็นศูนย์กลางและมีดาวเคราะห์โคจรอยู่บนทรงกลม
เป็นชั้น

428-348 B.C.
พลาโต
    พลาโตเสนอแนวคิดว่าโลกมีรูปร่างเป็นทรงกลม และอยู่เป็นจุดศูนย์กลางของเอกภพ โดยมีดาวเคราะห์โครจรอยู่ล้อมรอบ
บนพื้นผิวทรงกลมใสขนาดใหญ่ที่ครอบโลกอยู่

หน้าที่ 1 | 2 | 3